ครูจะต้องมีความประพฤติปฏิบัติต่อศิษย์
9
ประการ คือ
·
ตั้งใจถ่ายทอดวิชาการ บทบาทของครูต้องพยายามที่จะทำให้ลูกศิษย์เรียนด้วยความสุข
เรียนด้วยความเข้า ครูจะต้องตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะสอน
·
รักและเข้าใจศิษย์ ครูต้องพยายามศึกษาธรรมชาติของวัยรุ่น
ครูจึงควรให้อภัย เข้าใจ และหาวิธีการให้ศิษย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์
ครูต้องพยายามทำให้ลูกศิษย์รักและไว้ใจเพื่อที่จะได้กล้าปรึกษาในสิ่งต่างๆแล้วครูก็จะ
สามารถช่วยให้ศิษย์ประสบความสำเร็จในการเรียน และการดำรงชีวิตได้อย่างถูกต้อง
·
ส่งเสริมการเรียนรู้ ปัจจุบันนี้เน้นการส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นคว้าหาคำตอบด้วยตนเอง
อาจจะทำให้ผู้เรียนมีวิธีการหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ
ด้วยตนเองมากกว่าจะคอยให้ครูบอกให้แต่ฝ่ายเดียว ครูจึงจำเป็นต้องชี้ช่องทางให้ผู้เรียนหาวิธีการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองให้ถูกต้องมากขึ้น
·
ยุติธรรม อาชีพครูเป็นอาชีพที่จะต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนซื่อสัตย์
ยุติธรรม ไม่มีอคติลำเอียงต่อลูกศิษย์ ครูต้องมีความเป็นธรรมในการให้คะแนน
และการตัดเกรด
·
ไม่แสวงหาประโยชน์จากผู้เรียน ลักษณะของครูจะต้องเป็นผู้ไม่แสวงหาอามิสสินจ้าง
เงินไม่ใช่สิ่งที่สร้างความสุขเสมอไป
ครูต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษในการกระทำที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจได้ว่า
ครูกำลังหาประโยชน์จากศิษย์อย่างไม่เป็นธรรม
·
ทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี ครูมีอิทธิพลต่อศิษย์ทั้งด้านวาจา
ความคิด บุคลิกภาพ และความประพฤติ ครูจึงจะต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ซึมซับสิ่งที่ทำจากตัวครู
เมื่อศิษย์เกิดศรัทธาในความสามารถของครู
ศิษย์อาจจะเลียนแบบความประพฤติของครูไปอย่างไม่ได้เจตนา เช่น การตรงต่อเวลา การพูดจาชัดเจน
การแสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมา สุภาพเรียบร้อย เป็นต้น
·
ให้เกียรติผู้เรียน การยกย่องให้เกียรติผู้เรียน
ทำให้ผู้เรียนเกิดความพึงพอใจ และเกรงใจผู้สอน ครูไม่ควรใช้อำนาจในทางที่ผิด เช่น
พูดจาข่มขู่ ใช้คำพูดไม่สุภาพ หรือดูถูกผู้เรียน การเคารพผู้เรียนในฐานะปัจเจกบุคคลเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจ
และการเรียนรู้ที่ดี เมื่อผู้เรียนได้รับการปฏิบัติอย่างดี
ย่อมก่อให้เกิดพลังในการศึกษาต่อไป
·
อบรมบ่มนิสัย ขอยกคำกล่าวของ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูมีบทบาทหน้าที่ในการอบรมบ่มนิสัยเด็ก
โดยท่านเชื่อว่า “การอบรมบ่มนิสัยใคร ๆนั้นเพียงแค่วันละนาทีก็ดีถม”
·
ดังนั้นครูควรแบ่งเวลาในการอบรมบ่มนิสัยผู้เรียน เช่น
ก่อนการสอนแต่ละชั่วโมงอาจชี้แนะหรือให้ความคิดที่ดีแก่ผู้เรียนได้
ครูควรถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องสอนคนให้เป็นคนดี
·
ช่วยเหลือศิษย์ผู้เรียน
เมื่อศิษย์เข้ามาอยู่ในสถานศึกษา
แต่ละคนปัญหาที่แตกต่างกันออกไปดังนั้นครูจึงมีหน้าที่ที่จะต้องสังเกตความผิดปกติหรือข้อ
บกพร่องของศิษย์ และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
ไม่ให้ศิษย์ต้องก้าวถลำลึกลงไปในพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
เมื่อครูมีจรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ครูมีจรรยาบรรณต่อศิษย์แล้ว
ครูจะต้องมีความประพฤติปฏิบัติต่อตนเอง ด้วยคือ จรรยาบรรณต่อตนเอง
ครูจะต้องพัฒนาตนเองตลอดเวลา เพื่อให้มีลักษณะ ดังนี้
·
ประพฤติชอบ
ครูต้องตั้งตนไว้ในที่ถูกที่ควรสามารถบังคับตนเองให้ประพฤติแต่สิ่งที่ดีงามถูกต้อง
·
รับผิดชอบ
ครูต้องฝึกความรับผิดชอบ โดยตั้งใจทำงานให้สำเร็จลุล่วง
มีความผิดพลาดน้อย
·
มีเหตุผล
ครูต้องฝึกถามคำถามตนเองบ่อย ๆ ฝึกความคิดวิเคราะห์หาเหตุหาผล
หาข้อดีข้อเสียของตนเอง และเรื่องต่าง ๆ เพื่อทำให้ตนเองเป็นคนมีเหตุผลที่ดี
·
ใฝ่รู้
ครูจะต้องมีการติดตามข่าวสารข้อมูลอยู่เสมอ ๆ ทำให้ครูมีนิสัยใฝ่รู้
อยากทราบคำตอบในเรื่องต่าง ๆ ครูควรมีความรู้รอบตัวอย่างดี ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ
และการเมือง เพื่อให้ครูดำรงชีพในสังคมได้อย่างเป็นสุข ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง
ๆ ได้ และชี้แนะสิ่งที่ถูกต้องให้กับศิษย์ได้
·
รอบคอบ
ครูต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนละเอียดรอบคอบ และประณีต
ในการดำเนินกิจการต่าง ๆ การทำกิจกรรม
·
ฝึกจิต
การพัฒนาจิต
ทำให้ครูอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและส่งผลทำให้ครูทำงานได้อย่างมีประ สิทธิภาพมากขึ้นครูจึงต้องหมั่นฝึกจิตของตนให้สูงกว่ามาตรฐาน
ระงับอารมณ์ได้ดี คิดอะไรได้สูงกว่ามาตรฐานและคิดเป็นบวก มากกว่าคิดลบหรือคิดร้าย
·
สนใจศิษย์
การสนใจพัฒนาการของผู้เรียน
เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้วิชาชีพครูก้าวหน้า
เพราะถ้าไม่มีผู้เรียนก็ไม่มีวิชาชีพครู ครูจึงจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับลักษณะธรรมชาติผู้เรียน
การแก้ปัญหาผู้เรียน การส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
สรุป จรรยาบรรณ คือ ประมวลพฤติกรรมที่กำหนด
ลักษณะมาตรฐานการกระทำของครู อันจะทำให้วิชาชีพครูก้าวหน้าอย่างถาวร
โดยที่ครูจะต้องดำเนินการเรียนการสอนโดยการยึดจรรยาบรรณต่อวิชาชีพต่อผู้เรียน
และต่อตนเอง ในการทำหน้าที่ของครูให้สมบูรณ์ที่มา : http://www.gotoknow.org/posts/203198